แก้วมังกร
ก็เป็นอีกต้นหนึ่งที่พ่อปลูกโดยหลานชายเอาพันธ์มาจากชลบุรี แล้วขยายพันธ์ออกมาได้หลายต้น ซึ่งที่บ้านได้กินกันทุกปี และออกดกมาก ทำให้นึกถึงคนปลูก ซึ่งตอนนี้ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่ต้นไม้ของพ่อยังคงขยายพันธิ์ต่อไปโดยลูกๆๆ
วันนี้ก็เลยมาเชิญให้ทุกๆๆท่านมารู้จัก"ต้นแก้วมังกร" กันค่ะ
ภาพต้นมังกรที่ถ่ายลงมา เป็นต้นทีพ่อปลูกที่หน้าบ้านค่ะ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgBTrYUoRgWgLPRyoWeQUiS5AFQGFqWOKdk-Am4KUts5FRPRsFNNG6gUTwhpVsphQj_yteh0tcdT3su3MmkHnN7L-NF2-1XS9lyFAclwEiIJ0RrPqyqJgFIS4u8Mx6Kwq_40W-2rU5Zd6xR/s640/946398_1405020879731458_1621889522_n.jpg)
แก้วมังกร (สกุล Hylocereus) อยู่ในวงศ์ Cactaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับตะบองเพชร มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ในอเมริกากลาง เข้ามาในเอเชียที่เวียดนามก่อน โดยบาทหลวงชาวฝรั่งเศสเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว โดยปลูกมากตามแนวชายฝั่งทะเลตะวันออกจากเมืองญาตรังไปจนถึงไซ่ง่อน
ลักษณะ
แก้วมังกรเป็นไม้เลื้อย มีลำต้นยาวประมาณ 5 เมตร มีรากทั้งในดินและรากอากาศ ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ชอบแสงแดดพอเหมาะ โล่งแจ้ง แต่ไม่แรงกล้าเกินไป ดอกสีขาว ขนาดใหญ่กลีบยาวเรียงซ้อนกัน บานตอนกลางคืน ผลแก้วมังกรมีรูปทรงเป็นทรงกลมรี สีของเปลือกผลเมื่อดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกเป็นมีสีแดงม่วงหรือสีบานเย็น มีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่รอบผล[1] ผลแก้วมังกรส่วนใหญ่มีน้ำหนักประมาณ 300 - 600 กรัม เมื่อผ่าผลแก้วมังกรจะเห็นเนื้อของผลแก้วมังกรสีขาวหากผลนั้นเป็นแก้วมังกรพันธุ์เวียดนามหรือพันธุ์ไทย และเนื้อผลจะมีสีแดงหรือชมพูเมื่อผลนั้นเป็นพันธุ์เนื้อสีแดง โดยมีเมล็ดสีดำเล็กคล้ายๆเม็ดงา หรือเม็ดแมงลัก กระจายฝังอยู่ทั่วเนื้อ แก้วมังกรสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมีดังนี้[1]
- พันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Hylocercus undatus (Haw) Brit. & Rose.) เปลือกสีชมพูสด ปลายกลีบสีเขียว รสหวานอมเปรี้ยวหรือหวานจัด
- พันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลือง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Hylocercus megalanthus) เปลือกสีเหลือง ผลเล็กกว่าพันธุ์อื่นๆ เนื้อสีขาว เมล็ดขนาดใหญ่และมีน้อยกว่าพันธุ์อื่น รสหวาน
- พันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Hylocercus costaricensis) หรือพันธุ์คอสตาริกา เปลือกสีแดงจัด ผลเล็กกว่าพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง แต่รสหวานกว่า
การเพาะปลูก
แก้วมังกรเป็นไม้เลื้อยลำต้นอ่อนจำเป็นต้องมีหลักให้ลำต้นเกาะยึดซึ่งหลักจะเป็นไม้เนื้อแข็งหรือเสาซีเมนต์ก็ได้ ถ้าใช้ท่อซีเมนต์เป็นเสาซึ่งรูปทรงกลมภายในกลวงแต่เทปูนไว้ก้นท่อเพื่อไว้ใส่น้ำหล่อเลี้ยงให้เสามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ฝังท่อซีเมนต์ลงในดินประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร ต้องสูงจากพื้นดินประมาณ 1.5 – 2 เมตร ด้านบนของเสาทำเป็นร้านให้กิ่งเกาะแผ่ขยายออกไประยะปลูก 3 x 3 เมตร เตรียมหลุมขนาด 30 x 30 x 30 เซนติเมตร รอบ ๆ หลัก หลักละ 4 หลุม สำหรับปลูกหลุมละ 1 ต้น รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักเก่า 1 ปุ้งกี๋ เมื่อนำกิ่งพันธุ์ลงหลุมแล้วมัดกิ่งพันธุ์ให้แนบหลักและกันแดดให้ 1 – 2 สัปดาห์![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgMDrJGk6HeQoabsnRjIcwVnrIcCXZXR3gSz7rZpBfFZGwRRul4_puOsOaNSs85t75LS7QojRLaJFULAMt3pVX1LgO85uEQ0RIdwHOt4LEzQfqvG0tDrPXY9PLVbaGStPxO2ajZucEQEovZ/s400/1524573_1404428586464523_1648134279_n.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgMDrJGk6HeQoabsnRjIcwVnrIcCXZXR3gSz7rZpBfFZGwRRul4_puOsOaNSs85t75LS7QojRLaJFULAMt3pVX1LgO85uEQ0RIdwHOt4LEzQfqvG0tDrPXY9PLVbaGStPxO2ajZucEQEovZ/s400/1524573_1404428586464523_1648134279_n.jpg)
ประโยชน์
แก้วมังกรนิยมรับประทานเป็นผลไม้สด เป็นส่วนผสมของฟรุตสลัดหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ เป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานเพื่อบรรเทาอาการโรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน[ต้องการอ้างอิง]ตลอดจนช่วยลดความอ้วนเนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่ช่วยทั้งในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ กระดูกและฟันแข็งแรง ช่วยดูดซับสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างจากยาฆ่าแมลงที่มากับผัก สารตกค้างเช่นตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสียรถยนต์ และสารอื่นๆ และยังช่วยลดการเกิดมะเร็งอีกด้วย[
ผู้โพสเจตนา ต้องการให้ทุกท่านได้รู้จักและมีโอกาสได้ปลูก แก้วมังกรไว้ทานเองที่บ้าน
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี สนใจช้อมูลเพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่างค่ะ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3
และขอขอบคุณ อาจารย์ใหญ่ สมฤทธิ์ สมปาง ที่ขยายพันธิ์ให้ลูกหลานได้ทานลูกแก้วมังกรทุกปีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น